แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - radnana

หน้า: [1]
1
         การมีประกันรถยนต์ถือว่าเป็นการสร้างความมั่นใจในการขับขี่ เพราะเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินหรืออุบัติเหตุ คุณจะรู้ว่าคุณมีการคุ้มครองทางการเงินเพื่อช่วยในการซ่อมแซมหรือแก้ไขความเสียหาย คำถามคือทำประกันชั้นไหนดีเนื่องจากวันนี้มีให้เลือกหลายชั้น วันนี้เราจึงชวนคุณมาทำความเข้าใจอย่างรอบด้านว่าทำประกันรถยนต์ชั้น 1 แตกต่างกับ ชั้น 2+ อย่างไร เพราะทั้ง 2 รูปแบบการทำประกันนี้ถือว่าได้รับความนิยมจากคนใช้รถ

ประกันรถยนต์ชั้น 1  คุ้มครองอะไรบ้าง   ประกันชั้น 1 ซ่อมอู่ [pr]หรือ ประกันชั้น 1 ซ่อมศูนย์ [pr]

        ประกันชั้น 1 ให้ความคุ้มครองสูงสุด โดยความคุ้มครองทั้งต่อรถยนต์ของคุณ และความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอกด้วย นอกจากนั้นยังคุ้มครองเมื่อเกิดภัยธรรมชาติทุกรูปแบบหรืออุบัติเหตุ หรือชนแบบไม่มีคู่กรณีก็ยังได้รับความคุ้มครอง
ประกันรถยนต์ชั้น 1  มาพร้อมกับค่าเบี้ยประกันที่สูงกว่าประกันชั้น 2+ ซึ่งก็ย่อมคุ้มค่ากับ เบี้ยประกันรถยนต์ชั้น 1 [pr]ที่จ่าย ด้วยความคุ้มครองอย่างครอบคลุมจากแผนกรมธรรม์
ประกันรถยนต์ชั้น 2 คุ้มครองอะไรบ้าง
ประกันรถยนต์ชั้น 2+ คุ้มครองเมื่อเป็นอุบัติเหตุรถชน เกิดความเสียหายจากไฟไหม้ รวมถึงความเสียหายจากภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม ลมพายุ
ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุเล็กน้อย เช่น ชนฟุตบาท ชนสิ่งกีดขวาง ซึ่งถือว่าเป็นการเกิดด้วยความประมาท ไม่มีคู่กรณี ทำประกันชั้น 2+ จะไม่ได้รับความคุ้มครอง
ประกันชั้น 1 กับ 2+ คุ้มครองแตกต่างกันอย่างไร ชั้นไหนเหมาะกับไลฟ์สไตล์การขับขี่แบบไหนบ้าง
   ทั้ง 2 รูปแบบกรมธรรม์มีความคล้ายกันหลายเรื่อง เช่น ให้ความคุ้มครองกรณีเกิดอุบัติเหตุรถชน ให้ความคุ้มครองกรณีที่เกิดภัยธรรมชาติ โดยจะได้วงเงินความคุ้มครองแตกต่างกันขึ้นอยู่กับบริษัทประกันรถยนต์แต่ก็มีส่วนที่ให้ความคุ้มครองต่างกันอยู่ ดังนี้
ชนแบบไม่มีคู่กรณี
เคลมประกันชั้น 1 แบบไม่มีคู่กรณี [pr] ได้ หมายถึงจะเกิดอุบัติเหตุเพียงเล็กน้อย ชนฟุตบาท ชนกำแพง ก็ได้รับวงเงินคุ้มครอง ในขณะที่ประกันชั้น 2+ ไม่ได้คุ้มครองในกรณีดังกล่าว
ความคุ้มครองอุปกรณ์ตกแต่ง
ประกันชั้น 1 ให้ความคุ้มครองอุปกรณ์ตกแต่ง ในขณะที่ประกันชั้น 2+ ไม่ได้คุ้มครองในกรณีดังกล่าว
ความเสียหายจากภัยก่อการร้าย
ประกันชั้น 1 ให้ความคุ้มครอง แต่ประกันชั้น 2+ ไม่คุ้มครองในกรณีนี้
ชั้นไหนเหมาะกับไลฟ์สไตล์การขับขี่แบบไหน
จากความคุ้มครองที่แตกต่างกันดังกล่าวจึงจะเห็นได้ว่า การทำประกันชั้น 1 ให้ความคุ้มครองอย่างครอบคลุมในทุกด้าน จึงเหมาะกับคนที่ออกรถใหม่ คนที่ประสบการณ์ในการขับขี่น้อย มีความกังวลในการใช้รถ อยากได้รับความคุ้มครองในทุกกรณีฉุกเฉิน ส่วนหากว่ามีประสบการณ์ขับรถมานาน หรือเป็นรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานนานมากกว่า 9 ปีขึ้นไป ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ถือว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย
สำหรับใครที่ต้องการทำประกันรถยนต์ แนะนำ ประกันรถยนต์ Directasia บริษัทประกันรถยนต์ชั้นนำที่มีความน่าเชื่อถือ มีแผนกรมธรรม์ให้เลือก พร้อมให้ความคุ้มครองจริง โดยวันนี้มอบความคุ้มค่าให้ผู้ใช้บริการด้วยโปรโมชันดี ๆ เช่น การผ่อนเบี้ยประกัน 0% ได้รับโค้ดพิเศษสำหรับเติมน้ำมันสูงสุดถึง 3,000 บาท จึงถือว่าเป็นตัวช่วยให้กับคนมีรถยนต์ได้สบายใจในทุกการเดินทาง ว่าจะได้รับความคุ้มครองเมื่อเกิดอุบัติเหตุ สนใจ เช็คราคาประกันรถยนต์ชั้น 1 [pr]หรือชั้น 2+ ได้ผ่านเว็บไซต์ https://www.directasia.co.th/ [pr]



2
         บัตรเครดิต คือ บัตรที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ถือในการซื้อสินค้าและบริการแทนเงินสด พร้อมอภิสิทธิ์อื่น ๆ ที่เงินสดไม่สามารถทดแทนได้ เช่น สิทธิ์ในการผ่อนสินค้า 0%, สิทธิ์ส่วนลดร้านค้า ร้านอาหารหรือค่าเบี้ยประกันภัย หรือแม้แต่การเบิกถอนเงินสดมาใช้ยามฉุกเฉิน ก็สามารถทำได้แบบไม่ติดขัด เพียงแต่หลายคนอาจสงสัยว่าการ ทำบัตรเครดิต จำเป็นหรือไม่และมีข้อดีอย่างไรจึงเป็นที่นิยมของใครหลาย ๆ คน โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือน

ทําบัตรเครดิต [pr] เป็นหนี้จริงไหม
การใช้บัตรเครดิต [pr]สำหรับ ซื้อสินค้าและบริการ เป็นการยืมเงินจากอนาคตมาใช้ พร้อมวงเงินสำรองไว้ใช้จ่าย 2-3 เท่าของรายรับ ทำให้หลายคนมีชีวิตที่ดีขึ้น เพราะซื้อสิ่งของจำเป็นตามที่ต้องการได้ ในขณะที่ช่วงเวลานั้นมีเงินสดไม่เพียงพอ จึงทำให้เกิดการเป็นหนี้ชั่วคราว เพราะบริษัทบัตรเครดิตจะสรุปยอดหนี้หรือการใช้บัตรให้เจ้าของบัตรนำเงินมาชำระทุก ๆ สิ้นเดือนหรือรอบบิลที่กำหนดไว้ในสัญญาที่เริ่ม ทำบัตรเครดิต หากเจ้าของบัตรนำเงินมาชำระคืนก็จะไม่ก่อให้เกิดการเป็นหนี้ แต่ถ้ามีเหตุให้ต้องผิดนัดชำระ หนี้ดังกล่าวจะกลายเป็นหนี้ถาวรและตามมาด้วยภาระทางดอกเบี้ยที่คุณมิอาจปฏิเสธได้

ทำอย่างไรจึงจะไม่เป็นหนี้บัตรเครดิต
บัตรเครดิตจะให้ระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย 30-45 วัน นับจากวันที่เริ่มใช้บัตรซื้อสินค้าและบริการ ช่วงระยะเวลาดังกล่าวเจ้าของบัตรจะต้องหาเงินมาให้ทันก่อนถึงวันที่กำหนดชำระ เพียงเท่านี้ก็จะไม่เป็นหนี้บัตรเครดิตแล้ว นอกจากนี้การใช้บัตรเครดิตจะต้องอยู่ภายใต้กรอบของความสามารถในการชำระคืนได้ เพื่อที่จะไม่ต้องไปผ่อนจ่ายยอดขั้นต่ำที่ทางบัตรกำหนดมา เนื่องจากทางบริษัทบัตรเครดิตจะมองว่าคุณชำระเงินไม่ครบ ทำให้นำไปคิดดอกเบี้ยและหากมีการใช้จ่ายผ่านบัตรในเดือนถัดไป ก็จะทำให้มีดอกเบี้ยเกิดขึ้น 2 ก้อน

ข้อดีของบัตรเครดิต
หลังจากรู้เกี่ยวกับการเป็นหนี้บัตรเครดิตแล้ว อาจทำให้หลายคนยังสงสัยอยู่ว่าแล้วแบบนี้ทำไมยังมีคนนิยมที่จะ สมัครบัตรเครดิต เพิ่มมากขึ้นอีก ซึ่งบัตรเครดิตแต่ละประเภทก็จะมีข้อดีที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนที่นำไปใช้และความสามารถในการชำระคืนก็จะทำให้ไม่เป็นหนี้บัตรเครดิต สำหรับข้อดีของ
บัตรเครดิตมีดังนี้

1. บัตรเครดิตช่วยให้คุณมีวงเงินสำรองไว้ใช้จ่าย
คุณสามารถใช้บัตรเครดิตเพื่อซื้อสินค้า บริการต่าง ๆ หรือเบิกเงินสดฉุกเฉินได้เมื่อจำเป็น ซึ่งวงเงินสำรองนี้จะช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องเงินสดติดตัวไม่พอหรือต้องรอเงินเดือนออกก่อนจึงจะสามารถใช้จ่ายได้
2. บัตรเครดิตช่วยให้คุณผ่อนชำระสินค้าได้
ประเภทบัตรเครดิต มีหลายประเภท เช่น บัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ วีซ่า แพลทินัม ประเภทบัตรเครดิต ที่สามารถผ่อนชำระสินค้า 0% ได้ โดยที่ไม่กระทบต่อรายจ่ายของเจ้าของบัตร เช่น ราคาโทรทัศน์อาจจะอยู่ที่ 10,000 บาท หากต้องใช้เงินสดในการซื้อจะต้องจ่ายในขณะนั้น 10,000 บาทในทันที แต่ถ้าใช้สิทธิของบัตรเครดิตผ่อน 0% 10 เดือน จะทำให้จ่ายเงินเพียง 1,000 บาท เป็นระยะเวลา 10 เดือน ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนของคุณแถมมีเงินเหลือเพื่อใช้จ่ายอย่างอื่นได้
3. บัตรเครดิตช่วยให้คุณได้รับสิทธิประโยชน์มากมาย
บัตรเครดิตแต่ละประเภทอาจมีสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไป เช่น ส่วนลดในการซื้อสินค้า บริการต่าง ๆ คะแนนสะสม ประกันการเดินทาง เป็นต้น ซึ่งสิทธิประโยชน์เหล่านี้จะช่วยให้คุณประหยัดเงินได้มากขึ้น เช่น นำคะแนนที่สะสมมาเป็นส่วนลดในการซื้อสินค้าหรือนำคะแนนไปแลกเป็น Gift Voucher เพื่อใช้แทนเงินสดได้
4. บัตรเครดิตช่วยให้คุณบริหารการเงินได้ง่ายขึ้น
เนื่องจากคุณสามารถตรวจสอบยอดคงค้าง ยอดชำระขั้นต่ำและวันครบกำหนดชำระผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ของธนาคารหรือสถาบันการเงินที่ออกบัตรเครดิตให้คุณได้ ทำให้คุณสามารถที่จะวางแผนค่าใช้จ่ายทางการเงินให้กับตนเองได้

        จากข้อดีข้างต้นจะเห็นว่าการทำบัตรเครดิต บัตรเครดิตอนุมัติไว [pr]มีข้อดีมากมายที่คุ้มค่าแก่การใช้งาน แต่อย่างไรก็ตามการทำบัตรเครดิตก็ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง โดยควรใช้ให้ตรงตามวัตถุประสงค์ ชำระหนี้บัตรเครดิตตรงเวลาและใช้ไม่เกินวงเงินที่กำหนดไว้ เพื่อไม่ให้กลายเป็นหนี้บัตรเครดิตที่กลายเป็นปัญหาในอนาคต หากคุณสนใจที่จะสมัครบัตรเครดิตแนะนำให้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ ประเภทบัตรเครดิต ให้ดี เพื่อเลือกบัตรเครดิตที่เหมาะกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของคุณมากที่สุด



3
   เมื่อต้องเดินทาง ไปต่างประเทศ ไม่ว่าจะไปครั้งแรกหรือเคยไปมาแล้ว นักเดินทางทั้งหลายจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมเช็กลิสต์ทั้งสิ่งของและเอกสารสำคัญ สำหรับใครที่มีแพลนเดินทางบินลัดฟ้าอยากจะ เตรียมของไปต่างประเทศ ล่วงหน้าก่อนจะถึงวันเดินทางว่า ไปต่างประเทศต้องเตรียมอะไรบ้าง  วันนี้เราชวนคุณมาเช็กลิสต์ สิ่งที่ต้องเตรียมไปต่างประเทศ [pr]เพื่อให้ทริปของคุณราบรื่น
สิ่งของที่ต้องเตรียมไปต่างประเทศ มีอะไรบ้าง
ของใช้ส่วนตัว สำหรับใครที่ต้องการเซฟค่าใช้จ่ายไม่อยากไปซื้อของใช้ใหม่เมื่อถึงปลายทาง อย่าลืม เตรียมของไปต่างประเทศ [pr]โดยเฉพาะของใช้ส่วนตัว เช่น สกินแคร์ ยารักษาโรคประจำตัว เสื้อผ้า ผ้าพันคอ รองเท้าลำลอง
หัวแปลงปลั๊กไฟ ของใช้จำเป็นในยุคออนไลน์ ขาดไม่ได้เมื่อต้องเดินทางไปต่างประเทศ เนื่องจากแต่ละประเทศใช้ปลั๊กไฟไม่เหมือนกัน เมื่อถึงปลายทางไม่ต้องวิ่งวุ้นหาซื้อใหม่ให้เสียเวลา เช่น ประเทศอังกฤษใช้ปลั๊ก Type G คือมี 3 ขั้วลักษณะเหลี่ยมแบน ส่วนปลายขาเป็นรูปทรงสามเหลี่ยม ต้องพกหัวแปลงปลั๊กไฟ หัวแปลงปลั๊กไฟแบบ G ไปด้วย
บัตรเครดิต ตัวช่วยให้การใช้จ่ายสะดวกสบายในกรณีที่มีความจำเป็นต้องใช้จ่ายด่วน หาที่แลกเปลี่ยนเงินไม่ได้ บัตรเครดิตจะช่วยให้การใช้จ่ายคล่องตัวขึ้น อย่างไรก็ตามแนะนำวางแผนก่อนใช้จ่ายล่วงหน้า เช่น ใช้บัตรเครดิตในกรณีจำเป็นอะไรบ้างลิสต์ไว้เพื่อใช้จ่ายให้เกิดประโยชน์สูงสุด
เอกสารสำคัญที่ต้องใช้เมื่อต้องเดินทางไปต่างประเทศ
หนังสือเดินทางหรือ Passport อยู่ในลิสต์ สิ่งที่ต้องเตรียมไปต่างประเทศ ที่สำคัญมากและขาดไม่ได้ โดยจะต้องเช็กวันหมดอายุของหนังสือเดินทางก่อนล่วงหน้า หากหมดอายุจะต้องไปต่อหนังสือเดินทางก่อนที่กรมการกงสุลหรือสำนักงานหนังสือเดินทางที่อยู่ใกล้บ้าน
วัคซีนพาสปอร์ต เป็นอีกหนึ่งเอกสารสำคัญต้องพกติดกระเป๋า เพื่อยืนยันว่าตนเองได้รับวัคซีนโควิด-19 แล้ว อย่างไรก็ตามปัจจุบันนี้มีบางประเทศไม่ใช้แล้ว ในขณะที่บางประเทศก็ยังใช้อยู่ แนะนำเช็กปลายทางว่าประเทศที่กำลังจะเดินทางไปนั้นต้องใช้เอกสารวัคซีนพาสปอร์ตหรือไม่ก่อน เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา ยังต้องใช้เอกสารวัคซีนพาสปอร์ต ซึ่งจะต้องแสดงเอกสารก่อนขึ้นเครื่องบินเดินทาง
นอกจากสิ่งของ เอกสารข้างต้นนี้แล้ว เพื่อการเดินทางราบรื่นแนะนำวางแผนการเดินทาง ไปต่างประเทศ ให้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น เช็กสภาพอากาศ การเดินทางในต่างประเทศ รวมถึงการทำประกันภัยการเดินทางด้วย เพราะต้องยอมรับว่าไม่ว่าจะเดินทางใกล้หรือไกล มาพร้อมกับความเสี่ยงไม่ว่าจะเรื่องของสุขภาพที่อาจจะเจ็บป่วยระหว่างเดินทาง ปัญหาที่ไม่คาดคิดอื่น ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างเที่ยวบิน เช่น เดินทางล่าช้าเพราะสภาพอากาศย่ำแย่ และอื่น ๆ เมื่อเราทราบข้อมูลอย่างการเช็กสภาพอากาศก็จะเข้าใจและรับมือได้เมื่อเกิดปัญหา หรือเตรียมตัวเปรียบเทียบประกันภัย [pr] และทำประกันการเดินทางย่อมได้รับความคุ้มค่า เช่น ได้รับผลประโยชน์รายวันเมื่อต้องเข้ารักษาพยาบาลเป็นผู้ป่วยใน ในโรงพยาบาลต่างประเทศ เมื่อเตรียมความพร้อมในทุกด้านแล้วย่อมสบายใจกว่าไม่ได้เตรียมตัวแน่นอน



4
   หากถามว่าช่วงนี้ (ปี 2565) เหมาะที่จะมีบ้านเป็นของตัวเองหรือไม่ คำตอบคือช่วงนี้เหมาะมากเพราะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวมาเป็นเวลานานอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ปีนี้ทุกอย่างกำลังดีขึ้นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เริ่มกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง โครงการต่าง ๆ จึงเปิดโปรโมชั่นที่น่าสนใจออกมามากมาย หลายคนคงรู้สึกว่าเป็นเรื่องยากที่จะซื้อบ้านได้ด้วยเงินสด แต่ไม่ต้องกังวลครับหากคุณมีเงินเก็บจำนวนหนึ่งสำหรับดาวน์บ้านหรือคอนโดแล้ว และมีรายได้ที่แน่นอน การ คำนวณกู้บ้าน [pr]  ขอ กู้ซื้อบ้าน จากธนาคารก็เป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ยาก เราจะมาดูกันครับว่าธนาคารไหนคุ้มสุด

   หากจะ กู้เงินซื้อบ้าน ธนาคารแรกที่หลายคนนึกถึงคือธนาคารอาคารสงเคราะห์ ซึ่งถ้าพูดถึงธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยถูกที่สุดธนาคารนี้ก็ตอบโจทย์ เพราะให้อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 1.99% คงที่ 4 ปี ถ้าคำนวณสินเชื่อบ้าน [pr] เท่ากับว่าคุณจะผ่อนสบาย ๆ ได้ถึงสี่ปีก่อนที่จะต้องมองหาการรีไฟแนนซ์ ต่างกับหลายธนาคารที่ดอกเบี้ยอัตราพิเศษจะมีระยะเวลา 3 ปีเท่านั้น รวมถึงมาพร้อมกับวงเงินผ่อนชำระคงที่ 84 งวด ช่วยเรื่องการวางแผนการเงิน อย่างไรก็ตามความพิเศษนี้สำหรับวงเงินกู้ไม่เกิน 1.2 ล้านบาท จึงเหมาะกับคนที่มองหาบ้านราคาไม่แพง หรือเตรียมเงินดาวน์บ้านไว้ได้พอสมควรและมองหาสินเชื่อไว้เป็นตัวช่วย
   มาถึงธนาคารซึ่งคุ้มที่สุดสำหรับผู้ต้องการ รีไฟแนนซ์บ้าน กันบ้าง โดยเราเลือกมาให้สองธนาคาร สำหรับลูกค้าทั่วไปต้องธนาคารทหารไทยธนชาต เพราะให้ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 2.69% ระยะเวลาผ่อนนานสูงสุด 35 ปี โดยที่รวมกับอายุผู้กู้แล้วไม่เกิน 65 ปี เหมาะอย่างยิ่งกับมนุษย์เงินเดือนเพราะหากคุณเริ่มซื้อบ้านเมื่ออายุ 27 ปี โดยเป็นช่วงที่เริ่มทำงานเก็บเงินมาสักพัก ผ่านไป 3 ปี ก็สามารถรีไฟแนนซ์กับที่นี่ได้โดยผ่อนต่อแบบยาว ๆ ไม่ทำให้เกิดปัญหาทางการเงิน และสำหรับผู้ที่ทำงานมีรายได้ตั้งแต่เดือนละ 75,000 บาทขึ้นไป ธนาคารที่เหมาะกับคุณที่สุดคือธนาคาร แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพราะให้ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีอยู่ที่ 2.60% รวมถึงให้วงเงินสูงสุด 100% ของราคาประเมิน
   สำหรับใครก็ตามที่มองหาสินเชื่อซึ่งคุ้มทั้งการ กู้ซื้อบ้าน และรีไฟแนนซ์ก็ต้องธนาคารกรุงไทยครับ เพราะมาพร้อมกับดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีอยู่ที่ 3% และดอกเบี้ยปีแรกอยู่ที่ 0.56% เท่านั้น โดยต้องทำพร้อมกับประกันคุ้มครองสินเชื่อ ส่วนถ้าไม่ทำประกันคุ้มครองสินเชื่อดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 3.08% และดอกเบี้ย 9 เดือนแรกอยู่ที่ 0.56% จุดเด่นคือผ่อนได้ยาวนานถึง 40 ปี เหมาะอย่างยิ่งกับผู้ที่มองหาสินเชื่อที่ผ่อนได้สบายกว่าธนาคารอื่น

   จบกันไปแล้วกับการแนะนำสินเชื่อของ 4 ธนาคาร ไม่ว่าจะ กู้ซื้อคอนโด  ผ่อนคอนโด [pr]กู้ซื้อบ้าน หรือแม้แต่รีไฟแนนซ์ เชื่อได้ว่าจะต้องมีอย่างน้อยหนึ่งธนาคารที่ถูกใจคุณ เราขอแนะนำเป็นการปิดท้ายว่าก่อนตัดสินใจให้คุณลองเปรียบเทียบจากธนาคารอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ด้วย และอย่าลืมดูนโยบายการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยในอนาคต รวมถึงประเมินศักยภาพตัวเองว่าผ่อนชำระได้เดือนละเท่าไร เพราะทั้งหมดนี้จะทำให้คุณพบตัวเลือกที่เหมาะกับคุณมากที่สุดทั้งในแง่รายได้ ดอกเบี้ย และระยะเวลาผ่อนชำระ
บ้านปลอดภาระ คือ https://krungthai.com/th/financial-partner/learn-financial/1718 [pr]


5

 ในยุคนี้ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือนหรือฟรีแลนซ์ เมื่อไม่พอใช้จ่ายจำเป็นต้องใช้ บัตรเครดิต เพื่อนำมาใช้จ่ายในยามขับขัน หรือแม้แต่สนองความต้องการ สร้างเครดิตหรือความน่าเชื่อถือทางการเงินให้ตนเอง แต่ใช้อย่างไรให้ไม่เป็นหนี้เสียสร้างปัญหาต้องรู้เท่าทัน อย่างการเลือกบัตรเครดิตให้เหมาะสมรวมถึงรู้ทันในการใช้ เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามทำให้การใช้บัตรของคุณนั้นคุ้มค่า ไม่ต้องกังวลว่าจะสร้างหนี้ในระยะยาวมาดูกันว่า 5 เรื่องที่ต้องรู้นี้มีอะไรบ้าง และช่วยให้สามารถใช้งานบัตรเครดิตได้คุ้มค่าอย่างไรวางแผนสมัครบัตรเครดิตต้องรู้ เอกสารสมัครบัตรเครดิต [pr]ต้องอ่าน

ค่าปรับเมื่อยอดคงค้าง จ่ายเต็มจ่ายตรงเวลาเป็นวินัยของคนที่ใช้ บัตรเครดิต แล้วได้รับความคุ้มค่า ไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นหนี้ในระยะยาว เพราะการใช้บัตรเครดิตและจ่ายให้ตรงเวลา ไม่เพียงไม่ต้องกลัวว่าดอกเบี้ยจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ คุณยังมีวงเงินสำหรับใช้จ่ายเพิ่มขึ้นด้วย ใครที่กลัวลืมจ่ายสร้างวินัยได้ แนะนำให้เลือกช่องทางในการชำระที่สะดวก โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าจะลืมอย่างการชำระผ่าน application ธนาคารเป็นช่องทางที่รวดเร็ว ให้คุณได้จ่ายตรงเวลา

ดอกเบี้ยเป็นเรื่องสำคัญ หากคนที่เคย ทำบัตรเครดิตใบแรก [pr] จะทราบดีว่าเครดิตแต่ละแบบนั้นมาพร้อมกับการคิดดอกเบี้ยที่แตกต่างกัน บางบัตรคุณสามารถเลือกเปิดโดยที่ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมแรกเข้าในขณะที่บางบัตรต้องเสียทางค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี เพื่อความคุ้มค่าตั้งแต่วันแรกที่ใช้งานอย่าลืมเช็กเรื่องดอกเบี้ยบัตร

สิทธิประโยชน์คุ้มค่ารูดกี่ทีก็คุ้ม วันนี้มีบัตรเครดิตหลายประเภท อย่างการ สมัครบัตรผ่อนสินค้า ไม่เพียงให้คุณได้รับส่วนลดยังมีโปรโมชั่นสำหรับชำระสินค้าด้วยดอกเบี้ย 0% ทั้งยังมีการคืนเงินหรือเรียกว่า cash back credit เงินคืน การเช็คสิทธิ์ประโยชน์จะทำให้คุณทราบว่าบัตรไหนออกจากความต้องการของคุณมากที่สุด

อย่าปล่อยให้หนี้เพิ่มพูนไปเรื่อย ๆ ก่อน สมัครบัตรเครดิตหรือใช้บัตรเครดิตต้องคิดให้ถี่ถ้วนว่ามีความจำเป็นหรือไม่ เช็คเครดิตบูโร [pr] และประเมินว่ามีความสามารถในการจ่ายหรือชำระหนี้ ภายหลังจากที่ใช้บัตรเครดิตหรือเปล่า เพราะหากใช้ไปแล้วไม่สามารถผ่อนไหวจะทำให้มีดอกเบี้ยตามมาก่อให้เกิดหนี้บาน

จ่ายให้เต็มจำนวนทุกรอบบิล หลีกเลี่ยงการจ่ายแบบขั้นต่ำเพราะไม่ช่วยให้หนี้ลด แถมยังมีดอกเบี้ยเพิ่ม

บัตรเครดิตใช้ให้เป็น รู้ว่าจังหวะไหนควรใช้และทำอย่างไรที่จะได้รับประโยชน์ ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีแต่หนี้ตามมา วางแผนใช้จ่ายวันนี้ก่อนรูดบัตรอย่าลืมนำที่เราบอกตอนนี้ไปทบทวน หากตัดสินใจจะทราบวิธีสมัครบัตรเครดิต [pr] สมัครบัตรเครดิตออนไลน์ หรือสมัครผ่านเจ้าหน้าที่ธนาคารแล้วก็ขอให้วางแผนอย่างรอบด้าน ไม่เพียงเลือกบัตรให้ตอบโจทย์ความต้องการของตนเองยังจะต้องมีวินัยในการใช้จ่ายด้วยในทุกรอบบิล




หน้า: [1]