1
รถ ยานพาหนะ / ทำความเข้าใจประกันรถยนต์ชั้น 1 แตกต่างกับ ชั้น 2+ อย่างไร
« เมื่อ: 18 2024-07-18 2024 10:%i:1721273358 »
การมีประกันรถยนต์ถือว่าเป็นการสร้างความมั่นใจในการขับขี่ เพราะเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินหรืออุบัติเหตุ คุณจะรู้ว่าคุณมีการคุ้มครองทางการเงินเพื่อช่วยในการซ่อมแซมหรือแก้ไขความเสียหาย คำถามคือทำประกันชั้นไหนดีเนื่องจากวันนี้มีให้เลือกหลายชั้น วันนี้เราจึงชวนคุณมาทำความเข้าใจอย่างรอบด้านว่าทำประกันรถยนต์ชั้น 1 แตกต่างกับ ชั้น 2+ อย่างไร เพราะทั้ง 2 รูปแบบการทำประกันนี้ถือว่าได้รับความนิยมจากคนใช้รถ
ประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง ประกันชั้น 1 ซ่อมอู่ [pr]หรือ ประกันชั้น 1 ซ่อมศูนย์ [pr]
ประกันชั้น 1 ให้ความคุ้มครองสูงสุด โดยความคุ้มครองทั้งต่อรถยนต์ของคุณ และความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอกด้วย นอกจากนั้นยังคุ้มครองเมื่อเกิดภัยธรรมชาติทุกรูปแบบหรืออุบัติเหตุ หรือชนแบบไม่มีคู่กรณีก็ยังได้รับความคุ้มครอง
ประกันรถยนต์ชั้น 1 มาพร้อมกับค่าเบี้ยประกันที่สูงกว่าประกันชั้น 2+ ซึ่งก็ย่อมคุ้มค่ากับ เบี้ยประกันรถยนต์ชั้น 1 [pr]ที่จ่าย ด้วยความคุ้มครองอย่างครอบคลุมจากแผนกรมธรรม์
ประกันรถยนต์ชั้น 2 คุ้มครองอะไรบ้าง
ประกันรถยนต์ชั้น 2+ คุ้มครองเมื่อเป็นอุบัติเหตุรถชน เกิดความเสียหายจากไฟไหม้ รวมถึงความเสียหายจากภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม ลมพายุ
ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุเล็กน้อย เช่น ชนฟุตบาท ชนสิ่งกีดขวาง ซึ่งถือว่าเป็นการเกิดด้วยความประมาท ไม่มีคู่กรณี ทำประกันชั้น 2+ จะไม่ได้รับความคุ้มครอง
ประกันชั้น 1 กับ 2+ คุ้มครองแตกต่างกันอย่างไร ชั้นไหนเหมาะกับไลฟ์สไตล์การขับขี่แบบไหนบ้าง
ทั้ง 2 รูปแบบกรมธรรม์มีความคล้ายกันหลายเรื่อง เช่น ให้ความคุ้มครองกรณีเกิดอุบัติเหตุรถชน ให้ความคุ้มครองกรณีที่เกิดภัยธรรมชาติ โดยจะได้วงเงินความคุ้มครองแตกต่างกันขึ้นอยู่กับบริษัทประกันรถยนต์แต่ก็มีส่วนที่ให้ความคุ้มครองต่างกันอยู่ ดังนี้
ชนแบบไม่มีคู่กรณี
เคลมประกันชั้น 1 แบบไม่มีคู่กรณี [pr] ได้ หมายถึงจะเกิดอุบัติเหตุเพียงเล็กน้อย ชนฟุตบาท ชนกำแพง ก็ได้รับวงเงินคุ้มครอง ในขณะที่ประกันชั้น 2+ ไม่ได้คุ้มครองในกรณีดังกล่าว
ความคุ้มครองอุปกรณ์ตกแต่ง
ประกันชั้น 1 ให้ความคุ้มครองอุปกรณ์ตกแต่ง ในขณะที่ประกันชั้น 2+ ไม่ได้คุ้มครองในกรณีดังกล่าว
ความเสียหายจากภัยก่อการร้าย
ประกันชั้น 1 ให้ความคุ้มครอง แต่ประกันชั้น 2+ ไม่คุ้มครองในกรณีนี้
ชั้นไหนเหมาะกับไลฟ์สไตล์การขับขี่แบบไหน
จากความคุ้มครองที่แตกต่างกันดังกล่าวจึงจะเห็นได้ว่า การทำประกันชั้น 1 ให้ความคุ้มครองอย่างครอบคลุมในทุกด้าน จึงเหมาะกับคนที่ออกรถใหม่ คนที่ประสบการณ์ในการขับขี่น้อย มีความกังวลในการใช้รถ อยากได้รับความคุ้มครองในทุกกรณีฉุกเฉิน ส่วนหากว่ามีประสบการณ์ขับรถมานาน หรือเป็นรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานนานมากกว่า 9 ปีขึ้นไป ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ถือว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย
สำหรับใครที่ต้องการทำประกันรถยนต์ แนะนำ ประกันรถยนต์ Directasia บริษัทประกันรถยนต์ชั้นนำที่มีความน่าเชื่อถือ มีแผนกรมธรรม์ให้เลือก พร้อมให้ความคุ้มครองจริง โดยวันนี้มอบความคุ้มค่าให้ผู้ใช้บริการด้วยโปรโมชันดี ๆ เช่น การผ่อนเบี้ยประกัน 0% ได้รับโค้ดพิเศษสำหรับเติมน้ำมันสูงสุดถึง 3,000 บาท จึงถือว่าเป็นตัวช่วยให้กับคนมีรถยนต์ได้สบายใจในทุกการเดินทาง ว่าจะได้รับความคุ้มครองเมื่อเกิดอุบัติเหตุ สนใจ เช็คราคาประกันรถยนต์ชั้น 1 [pr]หรือชั้น 2+ ได้ผ่านเว็บไซต์ https://www.directasia.co.th/ [pr]
ประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง ประกันชั้น 1 ซ่อมอู่ [pr]หรือ ประกันชั้น 1 ซ่อมศูนย์ [pr]
ประกันชั้น 1 ให้ความคุ้มครองสูงสุด โดยความคุ้มครองทั้งต่อรถยนต์ของคุณ และความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอกด้วย นอกจากนั้นยังคุ้มครองเมื่อเกิดภัยธรรมชาติทุกรูปแบบหรืออุบัติเหตุ หรือชนแบบไม่มีคู่กรณีก็ยังได้รับความคุ้มครอง
ประกันรถยนต์ชั้น 1 มาพร้อมกับค่าเบี้ยประกันที่สูงกว่าประกันชั้น 2+ ซึ่งก็ย่อมคุ้มค่ากับ เบี้ยประกันรถยนต์ชั้น 1 [pr]ที่จ่าย ด้วยความคุ้มครองอย่างครอบคลุมจากแผนกรมธรรม์
ประกันรถยนต์ชั้น 2 คุ้มครองอะไรบ้าง
ประกันรถยนต์ชั้น 2+ คุ้มครองเมื่อเป็นอุบัติเหตุรถชน เกิดความเสียหายจากไฟไหม้ รวมถึงความเสียหายจากภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม ลมพายุ
ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุเล็กน้อย เช่น ชนฟุตบาท ชนสิ่งกีดขวาง ซึ่งถือว่าเป็นการเกิดด้วยความประมาท ไม่มีคู่กรณี ทำประกันชั้น 2+ จะไม่ได้รับความคุ้มครอง
ประกันชั้น 1 กับ 2+ คุ้มครองแตกต่างกันอย่างไร ชั้นไหนเหมาะกับไลฟ์สไตล์การขับขี่แบบไหนบ้าง
ทั้ง 2 รูปแบบกรมธรรม์มีความคล้ายกันหลายเรื่อง เช่น ให้ความคุ้มครองกรณีเกิดอุบัติเหตุรถชน ให้ความคุ้มครองกรณีที่เกิดภัยธรรมชาติ โดยจะได้วงเงินความคุ้มครองแตกต่างกันขึ้นอยู่กับบริษัทประกันรถยนต์แต่ก็มีส่วนที่ให้ความคุ้มครองต่างกันอยู่ ดังนี้
ชนแบบไม่มีคู่กรณี
เคลมประกันชั้น 1 แบบไม่มีคู่กรณี [pr] ได้ หมายถึงจะเกิดอุบัติเหตุเพียงเล็กน้อย ชนฟุตบาท ชนกำแพง ก็ได้รับวงเงินคุ้มครอง ในขณะที่ประกันชั้น 2+ ไม่ได้คุ้มครองในกรณีดังกล่าว
ความคุ้มครองอุปกรณ์ตกแต่ง
ประกันชั้น 1 ให้ความคุ้มครองอุปกรณ์ตกแต่ง ในขณะที่ประกันชั้น 2+ ไม่ได้คุ้มครองในกรณีดังกล่าว
ความเสียหายจากภัยก่อการร้าย
ประกันชั้น 1 ให้ความคุ้มครอง แต่ประกันชั้น 2+ ไม่คุ้มครองในกรณีนี้
ชั้นไหนเหมาะกับไลฟ์สไตล์การขับขี่แบบไหน
จากความคุ้มครองที่แตกต่างกันดังกล่าวจึงจะเห็นได้ว่า การทำประกันชั้น 1 ให้ความคุ้มครองอย่างครอบคลุมในทุกด้าน จึงเหมาะกับคนที่ออกรถใหม่ คนที่ประสบการณ์ในการขับขี่น้อย มีความกังวลในการใช้รถ อยากได้รับความคุ้มครองในทุกกรณีฉุกเฉิน ส่วนหากว่ามีประสบการณ์ขับรถมานาน หรือเป็นรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานนานมากกว่า 9 ปีขึ้นไป ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ถือว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย
สำหรับใครที่ต้องการทำประกันรถยนต์ แนะนำ ประกันรถยนต์ Directasia บริษัทประกันรถยนต์ชั้นนำที่มีความน่าเชื่อถือ มีแผนกรมธรรม์ให้เลือก พร้อมให้ความคุ้มครองจริง โดยวันนี้มอบความคุ้มค่าให้ผู้ใช้บริการด้วยโปรโมชันดี ๆ เช่น การผ่อนเบี้ยประกัน 0% ได้รับโค้ดพิเศษสำหรับเติมน้ำมันสูงสุดถึง 3,000 บาท จึงถือว่าเป็นตัวช่วยให้กับคนมีรถยนต์ได้สบายใจในทุกการเดินทาง ว่าจะได้รับความคุ้มครองเมื่อเกิดอุบัติเหตุ สนใจ เช็คราคาประกันรถยนต์ชั้น 1 [pr]หรือชั้น 2+ ได้ผ่านเว็บไซต์ https://www.directasia.co.th/ [pr]